ศัพท์เทควันโด







บทบัญญัติเทควันโด

1.จงรักภักดีต่อประเทศชาติของตน
BE FAITHFUL TO YOU COUNTRY 
2. เคารพพ่อแม่ ครูอาจารย์และผู้มีพระคุณ
HONOUR YOUR MASTERS AND PARENTS 
3. ซื่อตรง จริงใจต่อเพื่อน
BE HONESTS TO YOUR FRIENDS 
4. อย่าทำร้ายผู้อื่น โดยไม่จำเป็น
DO NOT HARM OTHERS UNNECESSARILY 
5. อย่าท้อถอยต่อเหตุการณ์ทั้งปวง
NEVER RETREAT 


ข้อปฏิบัติของนักเรียน 

1.ให้ความเคารพผู้อาวุโส
RESPECT THE SENIOR 
2.กระทำตนให้ดีที่สุดอย่างสม่ำเสมอ
ALWAYS DO YOUR BEST 
3. ตัดสินเหตุการณ์ด้วยความระมัดระวังและถูกต้อง
JUDGE CAREFULLY AND CORRECTLY 



ศัพท์เทควันโด
เทควันโด เป็นศิลปะการต่อสู้ที่มีต้นกำเนิดมาจากชนชาวเกาหลี ถึงแม้เมื่อเผยแพร่เป็นไปทั่วโลกในแง่ของกีฬา แล้วแต่เมื่อมีการแข่งขันก็ยังคงใช้ภาษาเกาหลีเป็นภาษากลางของการแข่งขันเช่นเดียวกับ กีฬาศิลปะการต่อสู้อื่นๆ ที่ใช้ภาษาของตนเป็นภาษากลางในการแข่งขัน เช่น ยูโดก็จะใช้ภาษาญี่ปุ่น เป็นต้น

ในการฝึกประจำวันผู้ฝึกควรพยายามใช้ภาษากลางของเทควันโด ในการสั่งให้เคยชินก็จะมีประโยชน์ในลำดับต่อไป ไม่ว่าในสนามแข่งขัน หรืออาจจะมีโอกาสเดินทางไปร่วมการฝึกที่ประเทศต้นกำเนิดของเทควันโดก็จะสามารถสื่อสารกันง่ายขึ้น เพราะที่ผ่านมาเรามักจะใช้ชื่อท่าต่าง ๆ เป็นภาษาอังกฤษทั้งสิ้น ซึ่งเข้าใจได้เร็วกว่า แต่ถ้าใช้ชื่อ หรือคำสั่งเป็นภาษาเกาหลีแล้วจะสามารถสื่อกันได้ชัดเจนกว่าเรา เพราะในตัวคำสั่งจะสื่อถึงท่าทาง และเทคนิคได้โดยตรง

ในช่วงที่ครูได้มีโอกาสไปฝึกซ้อมภาคปฏิบัติ และอบรมภาคทฤษฎีที่สถาบันเทควันโดโลกกุกกิวอน และสหพันธ์เทควันโดโลกที่เกาหลีหลายครั้งได้เห็นความจำเป็นในเรื่องนี้อย่างแท้จริง จึงขอรวบรวมศัพท์เทคนิคทางเทควันโดมาให้ศึกษากัน ในที่นี้ โดยจะนำศัพท์ที่จำเป็นเบื้องต้น รวมไว้ช่วงแรกพร้อมคำอธิบายเพิ่มเติมเพื่อความเข้าใจ และในช่วงต่อไปเป็นคำศัพท์ที่มากขึ้นซึ่งรวบรวมไว้ โดย พันเอกนายแพทย์ศุภกิตติ ขัมพานนท ซึ่งท่านผู้นี้นับเป็นนักวิชาการเทควันโดที่แท้จริงท่านหนึ่ง
คำศัพท์ที่ใช้บ่อย
- การเข้าแถวเคารพธง กุกกิเอ เดฮาโย เคียงเง่ คือ การเข้าแถวทั้งหมดหันหน้าหาหน้าชั้นเรียนที่มีธงชาติ และรูปเคารพแขวนอยู่แล้วสั่งเคารพพร้อมกัน เน้นคำว่า เคียงเง่
- การเคารพอาจารย์ แชเรียต ควานจังนิมเกะ เคียงเง่ คือการเข้าแถวเคารพอาจารย์ใหญ่ (เจ้าสำนัก) โดยมากคืออาจารย์ ดั้ง 6 ขึ้นไป แชเรียต คือสั่งตรง ความจังนิม คืออาจารย์ใหญ่ เกะ คือหมายถึงที่นั่น และ เคียงเง่ คือเคารพ ถ้าสั่งเคารพอาจารย์สายดำผู้สอนก็เปลี่ยนจาก ความจังนิม เป็น ซา บม นิม

- สั่งตรง เคารพ แชเรียต เคียงเง่ ใช้ตรง เคารพทั่วไปเช่น การเข้าคู่เตรียมซ้อม

- ท่าเตรียม จุนบี ถ้าในเวลาฝึกทั่วไปคือท่าแยกเท้ากว้างเท่าสะโพกยกมือขึ้นระดับลิ้นปี่แล้วกำหมัดลดลง
มาคู่กันอยู่ที่ท้องน้อย แต่ถ้าสถานการณ์ต่างๆจะใช้ไม่เหมือนกันคือ
- ในสนามแข่งขันต่อสู้ จุนบี คือท่าการ์ดเตรียมแข่งขันต่อสู้
- พูมเซ่ จุนบี คือการทำท่าจุนบีแบบช้าๆ เน้นสมาธิ เดินลมหายใจ เตรียมรำ พูมเซ่
- เคียรูกิ จุนบี คือการ์ดเตรียมต่อสู้ในการฝึกซ้อมต่อสู้
- เคี๊ยกพ่า จุนบี คือการ์ดเตรียมการสาธิตการทำลายต่างๆ เพราะฉะนั้นจะทำท่าค่อนข้างการ์ดกว้างกว่าท่าการ์ดต่อสู้

- เริ่ม ชีจั๊ก ใช้สั่งให้เริ่มทำได้ เช่นเริ่มแข่งขัน เริ่มรำพูมเซ่โดยไม่นับจังหวะ เริ่มฝึกซ้อมตามท่าที่สั่งโดย
ไม่นับจังหวะ เพราะฉะนั้นเมื่อสั่ง ชีจั๊กแล้วไม่ควรจะต้องนับ 1 2 3 ซ้ำซ้อนอีก

- หยุด คือมาน เป็นคำสั่งให้หยุดทั่วๆไป เช่นเรียกให้หยุดหลังจากกำลังฝึกเข้าคู่ต่อสู้กันอยู่ หรือผู้ตัดสินสั่ง
หยุดการแข่งขันตอนหมดยก

- กลับที่เดิม กลับท่าเริ่ม บาโร
 ใช้สั่งให้กลับมาท่าเริ่ม เช่น สั่งกลับมาท่า จุงบี เวลารำพูมเซ่เสร็จแล้ว (หลายๆคน ใช้คำว่า คือมาน ที่จริงควรใช้ บาโร) หรือเสร็จการแสดง สาธิตท่าสเตปสแปริ่งทีละท่าจบลง

- พัก ชิโอะ ใช้สั่งเวลาต้องการให้แยกย้ายไปพัก

- กลับหลังหัน ดิโร โดรา สั่งให้กลับหลังหันโดยต้องหมุนไปทางขวา

- นับ 1 ถึง 10 ใช้นับให้ปฏิบัติท่าทางต่างๆ พร้อมกัน ฮานา ตุล เซท เนท ทัส ยัส อิลโกบ
ยัลเดิล อาโฮบ เยิ้ล

- ลำดับต่างๆ 1 ถึง 10 ใช้เรียกลำดับขั้น เช่น พูมเซ่ที่ 1 2 3..... อิล อี ซัม ซา โอ ยุค ซิล พัล กู ซิบ
การเรียกลำดับพูมเซ่ (แพทเทอร์น) ที่ถูกต้อง การสอบเลื่อนสายในแต่ละขั้น จะมีการร่ายรำพูมเซ่ประจำสายของตน ซึ่งเป็นท่ารำมาตรฐานของสถาบันเทควันโดโลกกุกกิวอน โดยมีพูมเซ่อยู่ 2 กลุ่ม คือ เทกุค และ พัลเก

ปัจจุบันทั่วโลกจะใช้เทกุค 8 ชุดเป็นมาตรฐาน จะมีบ้างบางประเทศที่ใช้พัลเก ซึ่งเป็นพูมเซ่ที่เก่าแก่กว่า แต่ในประเทศไทยนับว่าพิเศษกว่า ประเทศต่างๆ คือจะรำทั้งหมด 10 พูมเซ่ โดยใช้เทกุค 1-8 และต่อด้วยพัลเก 7 และพัลเก 8 แต่มักเรียกผิดโดยเรียกพัลเก 7 เป็นเทกุค 9 และเรียกพัลเก 8 เป็นเทกุค 10 ซึ่งเป็นการเรียกที่ผิดพลาดทั้ง 2 พูมเซ่

ฉะนั้นเวลาจะขานชื่อพูมเซ่ (แพทเทอร์น) 9 ต้องเรียก พัลเก ซิลจัง (ไม่ใช่ เทกุค กู จัง) พูมเซ่ (แพทเทอร์น) 10 ต้องเรียก พัลเก พัลจัง (ไม่ใช่ เทกุค ซิบจัง)
พูมเซ่มาตรฐานในปัจจุบัน พูมเซ่ดั้งเดิม(ใช้บางประเทศ) ประเทศไทยใช้ 10 พูมเซ่
เทกุค Taegeuk มี 8 ชุด พัลเก Palgwe มี 8 ชุด
 แพทเทอร์น 1. เทกุค อิล จัง
แพทเทอร์น2. เทกุค อี จัง 
แพทเทอร์น 3. เทกุค ซัม จัง
แพทเทอร์น 4. เทกุค ซา จัง
แพทเทอร์น 5. เทกุค โอ จัง
แพทเทอร์น 6. เทกุค ยุค จัง
แพทเทอร์น 7. เทกุค ซิล จัง
แพทเทอร์น8. เทกุค พัล จัง
แพทเทอร์น 9. พัลเก ซิล จัง
แพทเทอร์น 10.พัลเก พัล จัง

ภาษาเกาหลีคำต่อไปนี้เป็นศัพท์ที่ใช้การเตะ (Chagi = ชากิ) 

Ahp-cha-gi Front kick อัพ ชากิ ฟร้อนท์คิก
Dolryo-cha-gi Round kick โดลเรียว ชากิ ราวนด์คิก
Yop-cha-gi Side kick ยัพ ชากิ ไซด์คิก
Dwi-cha-gi Backward kick ดวี ชากิ แบคคิก
Nak-a-cha-gi Hook kick นัคอาชากิ ฮุคคิก
Hu-ryo-chagi Swing Kick ฮูโร ชากิ สวิงคิก
Naeryo-chagi Chop Kick เนียโร ชากิ ช็อปคิก


การสอบเลื่อนสาย
ท่ารำ Poomse, เข้าคู่ Step Sparring, ท่าเตะประจำสาย Step Kick

Level Pattern (Poomse) Step Sparring Step Kick
White Six Block - none - Front Kick, Side Kick, Round Kick
Yellow 1 Taegeuk il jung Three Step 1 - 5 Step Front Kick, Step Side Kick, Step Round Kick
Yellow 2 Taegeuk e jung Three Step 6 -10 Jump Front Kick, Jump Side Kick, Jump Round Kick
Green 1 Taegeuk sum jung Two Step 1 - 5 Back Kick
Green 2 Taegeuk sa jung Two Step 6 - 10 Hook Kick
Blue 1 Taegeuk oh jung One Step 1 - 5 Swing Kick
Blue 2 Taegeuk yuk jung One Step 6 - 10 Jump High Kick
Brown 1 Taegeuk chil jung One Step 11 - 15 Double Front Kick
Brown 2 Taegeuk pul jung One Step 16 - 20 Flying Side Kick
Red 1 Taegeuk ku jung One Step 21 - 25 Turn Back Kick
Red 2 Taegeuk zip jung One Step 26 - 30 Two Way
Black (Dan) All 

คำสั่งที่ใช้กันในกีฬาเทควันโด-คำแปล

คำสั่งที่ผู้ฝึกสอนใช้ในการสอนนักเรียน เป็นภาษาเกาหลี นักเรียนลองดูจะได้ทราบว่าเวลาครูพูดหรือออกคำสั่งให้เราทำนั้น ครูจะให้เราทำอะไร 


นิยามศัพท์กีฬาเทควันโด

Charyeot
แชเรียต
ท่ายืนตรงปลายเท้าชิด กำหมัดแนบข้างลำตัว
Kyeong-rye
คิยอง-เย่
คำนับ ก้มศรีษะ โน้มตัวลงไปรอ 1-2 วินาทีจึงเงยขึ้น
Joonbi
จุนบิ
ท่าเตรียม แยกเท้าซ้ายไปด้านข้าง 1 ช่วงไหล่ดึงกำปั้นทั้งสองข้างขึ้นมาที่ระดับอก แล้วชกหมัดทั้งสองข้างลงข้างลำตัว
Pa-chagi joonbi
พาชากิ จุนบิ
ท่าตั้งการ์ดเตรียมต่อสู้ ถอยเท้าขวาข้างหนึ่งลงไปข้างหลังพอประมาณ ย่อเข่าลงเล็กน้อย กำหมัดทั้งสองข้างยกขึ้นมาตั้งการ์ดในระดับอก หมัดปิดปลายคาง
Geuman
กือมาน
หยุด จบ หรือ สิ้นสุด
Baro
พะโร
กลับคืนสู่ท่าเริ่มต้น
Shio
ชิโอะ
หยุดพัก
Choyu Gutt
โชโยกุ้ด
เลิกชั้น (การเรียนสิ้นสุดลงแล้ว)
Arae
อะเร
ส่วนล่างข้างร่างกาย ตั้งแต่สะโพกลงไป
Momtong
มมทง
ส่วนกลางของร่างกาย ตั้งแต่หัวไหล่ลงมาถึงสะโพก
Eolgul
ออลกุล
ส่วนบนของร่างกาย ตั้งแต่หัวไหล่ขึ้นไป
Chagi
ชากิ
การเตะ
Makki
มักกิ
การบล็อก
Jireugi
จีรือกิ
การชก
Seogi
เซอกิ
การยืน
Ap Chagi
อัพ ชากิ
เตะฟร้อนสแนปคิก
Dolryeo Chagi
ดลเรียล ชากิ
เตะราวน์คิก
Yeop Chagi
เยิพ ชากิ
เตะไซด์คิก
Dwit Chagi
ดวิท ชากิ
เตะแบล็คคิก
Huryeo Chagi
ฮูเรียว ชากิ
เตะฮุกคิก
Jwawoo-Hyangwoo
จวาวู-ยางวู
หันหน้าเข้าหากัน
Dwiro Dora
ดิโร โดระ
กลับหลังหัน (หมุนทางขวามือตัวเอง)

ส่วนคำสั่งที่นอกเหนือจากนี้ อาจจะใช้น้อยหรือบางยิมอาจไม่ได้ใช้เลย ก็ขอยกไว้ไม่เอามาลงแล้วกันนะ แต่อยากรู้ถามได้ จะหาคำตอบมาให้

ศัพท์เทควันโดที่สำคัญ
ลำดับที่
คำศัพท์
คำอ่าน
คำแปล / ความหมาย
Taekwondo
เท ควัน โด
ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัว และกีฬาประจำชาติของชาวเกาหลี
เท  หมายถึงการใช้เท้า
ควัน หมายถึงการใช้มือโด หมายถึงวิถีทาง ความคิด สติปัญญา
Dojang
โดจัง
สำนัก  หรือโรงฝึกเทควันโด
Kwanjangnim
ควานจังนิม
เจ้าสำนัก หรืออาจารย์ใหญ่
Saboemnim
ซา บม นิม
อาจารย์ (ดั้ง ๔ ขึ้นไป)
Kyosahnim
เคียวซานิม
อาจารย์ผู้ช่วย
Jaeja
เจจา
ศิษย์ นักเรียน
Yudanja
ยูดันจา
นักเทควันโดชั้นสายดำ
Mudanja
มูดันจา
นักเทควันโดชั้นสายสี
Choboja
โชโบจา
นักเทควันโดชั้นสายขาว (ผู้เริ่มต้นฝึก)
๑๐
Sunbaenim
ซุนเบนิม
ผู้อาวุโสกว่า หรือรุ่นพี่ (Senior)
๑๑
Whobae
ฮูเบ
ผู้อ่อนอาวุโสกว่า หรือรุ่นน้อง (Junior)
๑๒
Kukki(-ae)
กุกกิ(-เอ)
ธงชาติ ซึ่งประดับอยู่หน้าชั้นเรียน อาจารย์และนักเรียน ทุกคนจะต้องทำความเคารพก่อน และหลังการฝึก โดยใช้ คำสั่งบอกแถว “กุกกิเอ เดฮาโย่ เคียงเง่”
๑๓
Dan
ดาน
ดั้ง หมายถึงคุณวุฒิของผู้ฝึกเทควันโดในระดับสายดำ
แบ่งเป็น ๑๐ ระดับ จาก ดั้งที่ ๑ ถึงดั้งที่ ๑๐ ซึ่งขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักกุกกิวอน (สำนักงานใหญ่เทควันโดโลก) การสอบเลื่อนขั้น
เป็นไปตามระเบียบของสำนักกุกกิวอน
๑๔
Poom
พูม
คุณวุฒิของนักเทควันโดสายดำที่มีอายุต่ำกว่า ๑๕ ปี จะคาดสายดำ-แดง ครึ่งบนเป็นสีดำ  ครึ่งล่างเป็นสีแดง แบ่งเป็น ๓ ระดับ คือ พูม ๑ ถึง พูม ๓ เมื่ออายุครบ ๑๕ ปี ก็เปลี่ยนเป็นคาดสายดำ
๑๕
Gup
กึบ
คุณวุฒิของผู้ฝึกเทควันโดระดับต่ำกว่าสายดำ เริ่มจากสายขาว และสายสีต่างๆ ซึ่งแต่ละประเทศอาจแตกต่างกันบ้าง โดย ทั่วไปมี ๙ ถึง ๑๑ ขั้น ในประเทศไทยนิยมเรียงดังนี้
ขาว, เหลือง(๑-๒), เขียว(๑-๒), ฟ้า(๑-๒), น้ำตาล(๑-๒) และ แดง(๑-๒)
๑๖
Charyeot
แชเรียต
ท่ายืนตรง ปลายเท้าชิด แขนแนบลำตัว
๑๗
Kyeong-rye
เคียงเง่
คำนับ ก้มศีรษะโน้มตัวไปข้างหน้า
๑๘
Jwawoo-hyangwoo
จวาวูยางวู่
หันเข้าหากัน ถ้าสั่งซ้ำให้หันกลับมา
(Jwa ซ้าย Woo ขวา  Hyangwoo หัน)
๑๙
Dwiro Dora
ดิโร โดระ
กลับหลังหัน (หมุนไปทางด้านขวา)
๒๐
Joonbi /
Gibon Joonbi
จุนบี   หรือ
กิบอน จุนบี
ท่าเตรียม แยกเท้าซ้ายห่าง ๑ ฝ่าเท้า ยกมือทั้งสองขึ้น
ถึงระดับลิ้นปี่ ในลักษณะแบหงายมือแล้วกำหมัดลดลงจนอยู่
หน้าท้องน้อย
๒๑
Chagi Joonbi /
Kyorumsae
ชากิจุนบิ  หรือ
เคียรึมเซ่
ท่าตั้งการ์ดเตรียมต่อสู้ ถอยเท้าข้างหนึ่งไปข้างหลัง
ประมาณ ๑ ก้าวย่อเข่าลงเล็กน้อยกำหมัดยกขึ้นการ์ด ระดับอก (ในการแข่งขันแบบต่อสู้จะสั่ง จุนบี เฉยๆ)
๒๒
Momtong Jireugi Joombi Juchumsae
มมทงจีรึกิ จุนบี จูชุมเซ่
ท่าเตรียมออกหมัดชก แยกเท้าซ้ายออกไปด้านข้าง
ประมาณ ๒ ฝ่าเท้าย่อเข่าลงเท่าๆ กันแล้วออกหมัดชก
ระดับลิ้นปี่
(มีรูปแบบขั้นตอนในการออกหมัดชกหลายแบบ)
๒๓
Kihap /
Yell
คิฮัฟ   หรือ
เยล
การร้องเปล่งเสียงดัง “อีย่า” หรือ “เอี้ย” ให้เสียงก้องกังวาน ใช้ประโยชน์ในการรวบรวมส่งพละกำลัง ข่มขวัญคู่ต่อสู้เกิดความพร้อมเพรียงในการฝึกร่วมกัน
๒๔
Shijak
ชีจั๊ก
เริ่ม (การต่อสู้หรือการแสดง) ได้
๒๕
Kalyeo
คัลเลียว
แยก
๒๖
Kaesok
เคโซะ
(ต่อสู้) ต่อไป
๒๗
Geuman
คือมาน
หยุด จบ หรือสิ้นสุด
๒๘
Baro
พะโร / บาโร
กลับที่เดิม กลับสู่ท่าเริ่มต้น
๒๙
Shio
ชิโอะ
หยุดพัก
๓๐
Shigan
ชิกัน
ขอเวลานอกเพื่อจัดเครื่องแต่งกายและอุปกรณ์ให้เรียบร้อย
๓๑
Kyeshi
เคชิ
หยุดเวลาแข่งขัน ๑ นาทีเพื่อปฐมพยาบาลนักกีฬาที่บาดเจ็บ
๓๒
Undong Gutt /
Choyu Gutt
อุนดงกุ้ด หรือ
โชยูกุ้ด
เลิกชั้นเรียน
๓๓
Olgul
โอลกุล
ส่วนบนของร่างกายตั้งแต่แนวกระดูกไหปลาร้าขึ้นไปถึงศีรษะ
๓๔
Momtong
มม ทง
ส่วนกลางของร่างกายตั้งแต่แนวกระดูกไหปลาร้า
ลงมาถึงแนวกระดูกเชิงกรานด้านหน้า(ต่ำกว่าสะดือเล็กน้อย)
๓๕
Arae
อะเร
ส่วนล่างของร่างกาย
๓๖
Poomsae
พูมเซ่
ท่ารำ หรือท่าที่ใช้ในการต่อสู้แบบต่างๆ
๓๗
Kyorugi
เคียรูกิ
การประลองต่อสู้กัน อาจใช้ท่าตามแบบฝึก หรือแบบอิสระ
ที่ใช้ในการแข่งขัน ซึ่งต้องอยู่ภายใต้กรอบกติกา
๓๘
Kyeakpa
เคียกพ่า
การทำลายวัสดุด้วยส่วนต่างๆ ของร่างกาย
๓๙
Hoshinsul
โฮชินซึล
ท่าการป้องกันตนเองในระยะประชิด
๔๐
Moa Seogi
โมอา เซอกิ
ท่ายืนตรงปลายเท้าชิดกัน
๔๑
Naranhi Seogi
นารานฮิ เซอกิ
จากท่ายืนตรงแยกเท้าซ้ายออกด้านข้าง ๑ ฝ่าเท้าให้ปลาย
เท้าทั้งสองขนานชี้ตรงไปข้างหน้า
๔๒
Juchum Seogi
จูชุม เซอกิ
ฮอร์สไรดิงสแตนซ์ (Horse riding stance) หรือท่าขี่ม้า เท้าซ้ายแยกออกด้านข้าง ๒ ฝ่าเท้า  ย่อเข่าลง
๔๓
Apseogi
อัพเซอกิ
วอล์คกิงสแตนซ์ (Walking Stance) หรือท่าเดินปกติ ก้าวไปข้างหน้า ๑ ก้าว เข่าตรง
๔๔
Apkubi
อัพกูบิ
ฟอร์เวิร์ดสแตนซ์ (Forward Stance) หรือท่าเดินยาว ก้าวไปข้างหน้า ๑ ก้าวครึ่ง เท้าแยกห่างด้านข้าง ๑ ฝ่าเท้า เข่าหน้าย่อลง ขาหลังตึง
๔๕
Dwitkubi
ดิทกูบิ
แบคสแตนซ์ หรือท่าเดินหนักเท้าหลัง เท้าทั้งสองอยู่บน เส้นตรงเดียว ปลายเท้าหน้าชี้ตรง ปลายเท้าหลังชี้ออกข้าง ๙๐ องศา เท้าห่าง ๑ ก้าว เข่าทั้งสองย่อลง
๔๖
BeomSeogi
บอมเซอกิ
ไทเกอร์สแตนซ์ หรือท่าเสือ เท้าหน้าห่างเท้าหลังแค่ ส้นเท้าต่อปลายเท้า เท้าหน้าเขย่งขึ้นสุด เท้าหลังเฉียงออกข้าง ๓๐ องศา เข่าย่อทั้งสองข้าง น้ำหนักอยู่เท้าหลัง ๙๐ – ๑๐๐ เปอร์เซนต์
๔๗
HakdariSeogi
ฮักดาริ เซอกิ
เครนสแตนซ์ หรือท่ากระเรียน
ยืนขาเดียวโดยยกเท้าข้างหนึ่งขึ้นมาให้ข้างเท้า
ชิดติดกับข้างหัวเข่าของขาที่ยืน ย่อเข่าเท่าท่าขี่ม้า
๔๘
Jireugi
จีรึกิ
การชกด้วยหมัด
๔๙
Chigi
ชิกิ
การใช้มือทุบ ฟาด หรือฟัน
๕๐
Chireugi
ชีรึกิ
การใช้ปลายนิ้วแทง
๕๑
Makki
มักกิ
การใช้แขนปัดป้อง
๕๒
Chagi
ชากิ
การเตะ ถีบ
๕๓
Olrigi
โอลริกิ
การเตะโดยเข่าเหยียดตรง คือการเหวี่ยงไปทั้งท่อนขา
๕๔
Jumeok
จูม็อก
หมัด ใช้สันหมัดของนิ้วชี้และนิ้วกลางกระทบเป้าหมาย
๕๕
Deungjumeok
ดึงจูม็อก
หลังหมัด
๕๖
Mejumeok
เมจูม็อก
กำหมัด ใช้ด้านนิ้วก้อยทุบลง
๕๗
Pyonjumeok
เปียนจูม็อก
กำหมัดโดยงอเพียงครึ่งเดียวใช้ข้อกลางของนิ้วทั้งสี่
๕๘
Sosumjumeok
โซซัมจูม็อก
กำหมัดให้ข้อนิ้วกลางยื่นออกมา
๕๙
Jibkejumeok
จิบเก้จูม็อก
กำหมัดโดยกางนิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้ออกคล้ายตะขอ
๖๐
Sonnal
ซนนัล
สันมือมีด เหยียดนิ้วออกนิ้วทั้งสี่ชิดเกร็ง นิ้วหัวแม่มืองอลงมา
๖๑
Sonnaldeung
ซนนัลดึง
สันมือมีดด้านนิ้วชี้
๖๒
Sonkeut
ซนกึด
มือหอก ใช้นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง  เกร็งชิดกันแทงเป้าหมาย
๖๓
Hansonkkeut
ฮันซนกึด
ใช้ปลายนิ้วชี้เพียงนิ้วเดียว
๖๔
Kawisonkkeut
กาวิ ซนกึด
ใช้ปลายนิ้วชี้และนิ้วกลาง
๖๕
Agwison
อากวิซน
ง่ามนิ้วหัวแม่มือกางออกเป็นรูปโค้งเสี้ยวพระจันทร์
๖๖
Batangson
บาทังซน
กระดกข้อมือขึ้นงอข้อนิ้วทั้งห้า ใช้ส้นมือกระแทก
๖๗
Komson
คมซน
กำหมัดใช้ด้านฝ่ามือตบ
๖๘
Kuppinsonmok
คุพพินซนมก
จีบปลายนิ้วเข้าหากัน คว่ำมือลง ใช้หลังมือตรงกระดูกปลายแขนตรงข้อมือกระแทก
๖๙
Bakkatpalmok
บากัตพัลมก
ท่อนแขนด้านนอก (ด้านนิ้วก้อย)
๗๐
Anpalmok
อันพัลมก
ท่อนแขนด้านใน (ด้านหัวแม่มือ)
๗๑
Deungpalmok
ดึงพัลมก
ท่อนแขนด้านหลัง (ด้านหลังมือ)
๗๒
Mitpalmok
มิทพัลมก
ท่อนแขนด้านหน้า (ด้านฝ่ามือ)
๗๓
Palkup
พัลกุพ
ศอก
๗๔
Mureup
มูเริพ
เข่า
๗๕
Apchuk
อัพชุก
จมูกเท้า (ส่วนที่ใช้เวลาเขย่งเท้า)
๗๖
Dwichuk
ดิทชุก
ฝ่าเท้าด้านหลัง
๗๗
Balkkeut
บัลกึด
ปลายนิ้วเท้า ใช้จิก
๗๘
Balnal
บัลนัล
สันด้านนอกเท้า
๗๙
Balnaldeung
บัลนัลดึง
สันแปด้านในเท้า
๘๐
Baldeung
บัลดึง
หลังเท้า
๘๑
Dwikkumchi
ดิทคุมชิ
ส้นเท้า
๘๒
Taegeuk
เทกุค
๑. จักรวาล เอกภพ อันไม่มีที่สิ้นสุด
๒. ธงชาติเกาหลี
๓. ในเทควันโดหมายถึงท่ารำมาตรฐานสำหรับนักเทควันโด
ในระดับต่ำกว่าสายดำ มีด้วยกัน ๘ ชุด
๘๓
Palgwe
พัลเก
๑. ทิศทั้ง ๘ หรือธาตุในธรรมชาติ ๘ ชนิด
๒. ในเทควันโด หมายถึงท่ารำชุดดั้งเดิม ๘ ชุด
ยังมีบางประเทศ บางสำนักฝึกอยู่
๘๔
Koryo
โคเรีย/คอร์โย
ท่ารำของสายดำดั้ง ๑ หมายถึงนักรบหนุ่มผุ้มุ่งมั่นฝึกฝน
และเพิ่มพูนประสบการณ์
๘๕
Keumgang
กึมกัง
ท่ารำของสายดำดั้ง ๒ หมายถึงภูเขากึมกังอันศักดิ์สิทธิ์
ที่ตำนานกล่าวว่าเป็นที่อาศัยของยักษ์ที่ทำหน้าที่แบกโลก
๘๖
Taebaek
เทเบ็ก
ท่ารำของสายดำดั้ง ๓ หมายถึง ถิ่นกำเนิดของชาวเกาหลี
ตำนานกล่าวว่าอยู่ที่บริเวณภูเขาไฟเบคดูในเกาหลีเหนือ
ซึ่งตันกุน ปฐมกษัตริย์ของเกาหลีก่อตั้งประเทศเป็นครั้งแรก
๘๗
Pyongwon
เพียงวอน
ท่ารำของสายดำดั้ง ๔ หมายถึง ที่ราบ  ทุ่งกว้าง
๘๘
Sipjin
ซิบจิน
ท่ารำของสายดำดั้ง ๕
หมายถึง เลข ๑๐ สิบสิ่งสัญลักษณ์แห่งอายุยืนยาว
๘๙
Jitae
จิเท
ท่ารำของสายดำดั้ง ๖
หมายถึง มนุษย์ยืนหยัดบนพื้นโลก มองขึ้นสู่ท้องฟ้ากว้าง
๙๐
Chonkwon
ชองกวอน
ท่ารำของสายดำดั้ง ๗ หมายถึง พลังอันยิ่งใหญ่แห่งสวรรค์
๙๑
Hansu
ฮันซู
ท่ารำของสายดำดั้ง ๘
หมายถึง  น้ำ การไหลเวียนที่ไม่สิ้นสุด
๙๒
Ilyeo
อิลโย
ท่ารำของสายดำดั้ง ๙
หมายถึง  กายและใจรวมเป็นหนึ่งเดียว

จำนวนการเข้าชม popi3u